Viqua คืออะไร?
Viqua® คือผลผลิตจากธรรมชาติที่จะช่วยแก้ปัญหาผิวครบวงจร
VIQUA® ใช้สารสกัดจากผลทับทิม ที่จะช่วยย้อนวัยผิวและช่วยให้ผิวขาวขึ้นอย่างธรรมชาติ
จากงานวิจัยในกลุ่มอาสาสมัครที่ใช้ Viqua พบว่าช่วยทำให้จุดด่างดำและริ้วรอยจางลง เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว และช่วยให้การหมุนเวียนของหลอดเลือดฝอยดีขึ้น
ประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือของ Viqua สามารถพบเห็นได้บนสินค้าหลากหลายชนิด ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นในเครื่องสำอางหรือ ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม
ทับทิมมหัศจรรย์ที่อยู่ในฟอร์มประสิทธิภาพสูงสุด
สินค้าด้านความงามที่เห็นผลส่วนมากจะขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพด้านการดูดซึม เพราะถ้าหากดูดซึมไม่ดี จะทำให้สารออกฤทธิ์นั้นไม่สามารถดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดและส่งต่อไปยังเซลล์เป้าหมายได้ ซึ่งส่วนมากสารสกัดจากทับทิมนั้นจะดูดซึมได้ไม่ดี ได้หากเพียงทานเข้าไปร่างกายจะขับสารออกจากร่างกายโดยไม่ดูดซึม
Viqua® นั้นแตกต่าง เพราะว่าเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูงถูกนำมาบรรจุลงในด้วยนาโนเทคโนโลยีที่เรียกว่า ADS® ที่มีความปลอดภัย และสามารถช่วยขนส่งสารออกฤทธิ์ไปยังเซลล์เป้าหมาย ซึ่งจะช่วยกำจัดสารอนุมูลอิสระ และทำให้ร่างกายและผิวดูเยาว์วัยขึ้น
ทับทิม: สุดยอดผลไม้จากธรรมชาติ
ประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน
ถิ่นกำเนิดของทับทิมนั้นอยู่ระหว่างอิหร่านและเทือกเขาหิมาลัย ที่ถูกปลูกมานานกว่าพันปี ในแถบยุโรปและแอฟริกาใช้เป็นสิ่งของแลกเปลี่ยน ถูกค้นพบครั้งแรกในยุคเมโสโปเตเมีย 3ล้านปีก่อนคริสตศักราช นอกจากนี้ยังพบหลักฐานอีกว่าทับทิมได้ถูกเสิรฟ์ในงานเลี้ยงของกษัตริย์ไมดัสในประวัติศาสตร์ของกรีซ เมื่อปีคริสตศักราช 800.
พร้อมทั้งตามหลักศาสนา ทับทิมถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ของยารักษาโรค ในยุคโบราณของจีนที่ที่สีแดงของน้ำทับทิมถูกเชื่อว่าเป็นยาอายุวัฒนะเนื่องจากมีสีเดียวกับเลือด
จนในทุกวันนี้ ทับทิมก็ยังถูกใช้อย่างแพร่หลาย ทั้งในเมนูอาหารท้องถิ่นของตุรกีและในสูตรซอสของกรีก นอกจากนั้นคนท้องถิ่นในประเทศกรีซยังเชื่ออีกว่าทับทิมเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ และโชคดีจึงนำทับทิมมาใช้ในงานวิวาห์เพื่อให้คู่แต่งงานนั้นมีลูกมีหลานมากมายในอนาคต
ทับทิมสุดยอดแหล่งผลไม้
คำว่า ผลไม้มหัศจรรย์ มักจะถูกใช้กับผลไม้ที่อุดมไปด้วยสารอาหารและมีประโยชน์ต่อร่างกาย โดยในผลไม้กลุ่มนี้มักมีสารต้านอนุมูลอิสระที่จะช่วยปกป้องเซลล์จากอนูมูลอิสระ และช่วยซ่อมแซมเซลล์
ทับทิมนั้นอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ โดยพบว่ามีมากกว่าชาเขียว 3-7 เท่า และยังพบ วิตามิน A, C และ E รวมถึงไฟเบอร์ ธาตุเหล็ก โพแทสเซียม แคลเซียม และ กรดโฟลิคในปริมาณสูง จากงานวิจัยยังพบอีกว่า การดื่มน้ำทับทิมวันละครั้งเป็นเวลา 3 เดือนช่วยลดหลอดเลือดแดงแข็งตัวได้ 35%
จากคุณสมบัติที่กล่าวมาทำให้ทับทิมถูกโหวตให้เป็น ‘Best Healthy Beverage’ จาก Reader’s Digest.
ใช้ทับทิมในรูปที่มีประสิทธิภาพสูงสุด
ผลทับทิมนั้นมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงประสิทธิภาพสำหรับผิวมากกว่าที่คุณรู้
อัดแน่นไปด้วยสารอาหารหลากหลายชนิด เช่น Vitamins B1, B2 และ C, Niacin, Potassium, Glutanic Acid, Aspartic Acid, Hydrolysable Tannins, Punicalagins, Ellagitannins, Flayonoids, Ellagic Acid, Pelletierines, Psuedopelletierine, Isopelletierine, Methylisopelletierine, Genistein, Diadzein และ Estrone. นอกจากนั้นยังอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระตระกูลโพลีฟีนอล (Polyphenols) ที่พบมากกว่าผลไม้ชนิดอื่น

ในบรรดาสารตระกูลโพลีฟีนอล สาร Punicalgins ถูกพบว่าเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุด
ทั่วไปแล้วทับทิมนั้นจะมีระดับ Punicalagin ในปริมาณต่ำ แต่ Viqua นั้นได้มีการกำหนดมาตรฐานว่าจะต้องมีระดับของสารนี้สูงกว่า 40 % ซึ่งเป็นระดับเดียวกับที่ใช้ในน้ำทับทิม (ระดับเดียวกับงานวิจัย)
VIQUA® ใช้นาโนเทคโนโลยี ADS® เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
เบื้องหลังประสิทธิภาพของ Viqua® ที่ทำให้เหนือกว่าสารสกัดทับทิมทั่วไป คือ นาโนเทคโนโลยี ADS® ที่จดสิทธิบัตรจากประเทศฝรั่งเศส
เทคโนโลยีนี้จะช่วยให้สารออกฤทธิ์ถูกดูดซึมผ่านทางเดินอาหารได้ดีขึ้นอย่างชัดเจนและตรงไปยังเซลล์เป้าหมาย
(ตามภาพ) Viqua® (โมเลกุลสีชมพู) นำสารต้านอนุมูลอิสระจากผลทับทิมเข้าสู่เซลล์ไมโทคอนเดรียในผิว
Viqua® ทำงานจากภายในเซลล์
ADS® จะพา Viqua® ผ่านเยื่อหุ้มเซลล์เข้าสู่เซลล์ไมโทคอนเดรียเพื่อขจัดอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นภายในเซลล์ที่เป็นต้นตอของการเสื่อมของเซลล์ จึงทำให้ Viqua นั้นมีเอกลักษณ์และประสิทธิภาพที่ไม่เหมือนสารสกัดทั่วไป
เมื่อ Viqua (โมเลกุลสีชมพู) เข้าสู่เซลล์ผิว มันจะเข้าสู่เซลล์ไมโทคอนเดรียที่ที่อนุมูลอิสระถูกผลิตขึ้น และ Viqua จะทำหน้าที่กำจัด
Copyright © 2015 Axialys Innovations